Indus ร้านอาหารอินเดียในตำนานกว่า 16 ปี ไม่มีเซเลบฯคนไหนในกรุงเทพฯที่ไม่รู้จัก
Indus ร้านอาหารอินเดียในซอยสุขุมวิท 26 ซึ่งได้ชื่อร้านมาจากชื่อของลุ่มน้ำสินธุ โดยเปิดให้บริการมานานตั้งแต่ปี 2004 การันตีรสชาติและคุณภาพอาหารด้วยรางวัลระดับประเทศจากหลายเวทีมายาวนาน
ร้าน Indus เกิดจาก คุณสิธธัตถะ เซกาล – นักธุรกิจเชื้อสายอินเดียที่เกิดและเติบโตในไทย และได้ไปศึกษาต่อที่นิวยอร์ก ซึ่งเป็นการจุดประกายให้คุณสิธธัตถะ หันมาสนใจธุรกิจร้านอาหาร นำเสนอร้านอาหารอินเดียรสชาติอินเดียอย่างถูกต้อง และหลังจากกลับมาไทยคุณสิทธิ์จึงตัดสินใจเปิดร้านอาหารอินเดียร่วมสมัย Indus ในที่สุด
ตัวร้านสัมผัสได้ถึงบรรยากาศสไตล์อินเดียตั้งแต่ประตูหน้าร้าน และเมื่อเข้าไปด้านใน จะพบกับห้องทานอาหารบรรยากาศอบอุ่นที่ตกแต่งด้วยผลงานศิลปะยุคราชวงศ์โมกุล ส่วนพื้นที่ด้านหลังก็เป็นห้องอาหารเช่นกัน แต่มีความเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เอาท์ดอร์พร้อมสวนร่มรื่น เหมาะสำหรับจัดงานเลี้ยงหรือปาร์ตี้ส่วนตัว
ช่วงนี้กลิ่นอายภารตะค่อนข้างเรียกร้องอีกครั้ง วันนี้ Luxurynews360.com มีโอกาสมารับประทาน อาหารอินเดียแบบร่วมสมัย Contemporary Indian Dining ที่ร้าน อินดัส Indus ในซอยสุขุมวิท 26 ร้านอาหารชั้นเลิศจากแดนภารตะ การันตีด้วยรางวัลชั้นนำด้านอาหารหลายสถาบัน ดำเนินงานมาแล้วเกือบ 16 ปี
เรามาพูดคุยกับคุณสิธธัตถะ นิดหน่อยเดี๋ยวเรามาแนะนำเมนูอาหารกันต่อนะคะ
“ผมเกิดและโตที่กรุงเทพ ช่วงเรียนมัธยมผมสังเกตเห็นว่าความเข้าใจของอาหารอินเดียในหมู่คนไทยนั้นไม่ดีนักเนื่องจากคุณภาพและความหลากหลายของอาหารอินเดียเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ค่อนข้างจำกัด
ในช่วงที่ผมเรียนมหาวิทยาลัย ผมได้มีโอกาสลองไปทานอาหารอินเดียรสเลิศหลายแห่งทั่วโลก รวมถึง นิวยอร์ก ลอนดอน ดูไบ และอีกหลายแห่งในอินเดีย ผมจึงรู้สึกว่าอาหารอินเดียไม่ได้ถูกนำเสนออย่างถูกต้องในบ้านเกิดของผมและต้องการสร้างบางสิ่งที่พิเศษจริงๆ.
ชื่อร้านอินดัส มาจาก อินเดียมีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับอาหารที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งย้อนกลับไปในอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ (ประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสตกาล) มีโบราณวัตถุที่ค้นพบในยุคนั้นซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้คนในสมัยก่อนนั้นเคยใช้เครื่องถ้วยชามและมีดโบราณที่ทำจากหินบรอนซ์และทองแดง เป็นที่เชื่อกันว่าคนเหล่านี้เป็นหนึ่งในคนแรกของโลกที่เปลี่ยนแนวคิดการกินเพื่อความอยู่รอดเป็นการกินเพื่อความเพลิดเพลิน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ผมได้แรงบันดาลใจ
ซึ่ง แม่น้ำสินธุเริ่มในเทือกเขาหิมาลัยที่ประเทศทิเบต ไหลลงสู่แคชเมียร์ ปัญจาบ และปากีสถาน ตามเส้นทางนั้นมีอาหารหลากหลายประเภท ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมา และแตกต่างกันไปตามภูมิประเทศ ภูมิอากาศและความชอบของผู้คนในแต่ละภาค
คุณปู่และคุณย่าของผมย้ายจากภูมิภาคนี้มาที่ประเทศไทยในปี 2483 และรายการอาหารส่วนใหญ่ในเมนูที่ Indus ก็มาจากภูมิภาคเหล่านี้เช่นกัน คุณสิธธัตถะ เซกาลคุณสิธธัตถะ กล่าวอย่างภูมิใจ “
ส่วนรายการเมนูอาหารส่วนใหญ่ จะมีที่มาจาก ประวัติศาตร์ทางอินเดีย อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ มีโบราณวัตถุที่ค้นพบในยุคนั้นซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้คนในสมัยก่อนนั้นเคยใช้เครื่องถ้วยชาม และมีดโบราณที่ทำจากหินบรอนซ์และทองแดงเป็นที่เชื่อกันว่าคนเหล่านี้เป็นหนึ่งในคนแรกของโลกที่เปลี่ยนแนวคิดการกินเพื่อความอยู่รอดเป็นการกินเพื่อความเพลิดเพลิน สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจของ คุณสิธธัตถะเช่นกัน เรามาดูในส่วนของเมนูที่นี่กันเลยค่ะ ตามมาตะลุยอาหารกับเราเลยค่ะ ว่าจะน่ากินแค่ไหน
เริ่มด้วย Papdi chaat (delhi) ข้าวเกรียบทำจากแป้งถั่วนำ มาทอดจนกรอบ โรยด้วยถั่วชิคพี มันฝรั่ง โยเกิร์ต เสิร์ฟ ด้วยท็อปปิ้ง ซอสมิ้นท์ และซอสมะขาม เป็ฯอาหารว่างที่เป็นที่นิยมตามเมืองต่างๆในประเทศอินเดีย
Tandoori Creamy Broccoli เป็นบล็อกโคลี่จากโครงการหลวง หมักกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์บด และครีมชีส ปรุงด้วยผงกระวาน นำมาย่างในเตาย่าง Tandoor ของอินเดีย
Keba-e-Malai เป็นเมนูจากไก่เนื้อนุ่มหมักโยเกิร์ต ครีมชีส กะวาน เม็ดมะม่วงหิมพานต์บด และเครื่องเทศของอินเดียปรุงรส แล้วนำมาย่างให้มีกลิ่นหอม
Tandoori Tiger Prawns เป็นกุ้งลายเสือมาหมักกับน้ำมันมัสตาร์ด ใบฟีนกรีก เครื่องเทศและโยเกิร์ตแล้วนำไปย่างในเตาย่าง Tandoor
Raan Sikandari เป็นขาแกะย่างสูตรอินดัส ขาแกะมาจากฟาร์มที่ทางร้านซื้อเป็นประจำมา 15 ปีแล้ว เป็นเมนูที่ทำยากมาก ใช้ส่วนน่องของแกะ นำมาหมักถึง 12 ชม. และตุ๋นอีก 7 ชั่วโมง แล้วจึงนำมาย่างไฟอ่อน เนื้อจะนุ่มมาก และไม่มีกลิ่นเลย
Palak Paneer ผักโขมสับใส่ครีม ผัดร่วมกับคอทเทจชีส หั่นทรงสี่เหลี่ยมสูตรของ
ทางอินดัส
Khatte Baingan แกงกระหรี่ มะเขือม่วงเผา ปรุงด้วยหอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ เครื่องเทศอินเดีย เสิร์ฟพร้อมกับข้าวบาสมาติ ซึ่งหุงกับหญ้าฝรั่น ทานกับแป้งนาน
Murgh Dum Biryani เมนูข้าวหมกไก่ ซึ่งเป็นสูตรของทางภาคเหนือของอินเดีย จากลัคนาว (Lucknow) จะมีสีเหลืองและมีกลิ่นหอมจากดอกไม้มากกว่ากลิ่นเครื่องเทศ ต้องปรุงในหม้อดิน ถ้าเป็นทางภาคใต้จะมีรสเผ็ดและมีสีแดงกว่า
Ayurvedic Chai ชาร้อนสมุนไพร ซึ่งอุดมไปด้วยคุณประโยชน์จากสมุนไพรไทย เช่น กานพลู ขิง ใบโหระพา กระวาน เม็ดยี่หร่าและน้ำผึ้ง
Gulab Jamun Flambe’ กุหลาบจามุน ทำมาจากนมเคี่ยวให้แห้ง แล้วนำไปทอดในน้ำเชื่อมผสมน้ำกุหลาบ มีรสชาติหวาน
Phirni พุดดิ้งข้าว โรยหญ้าฝรั่นและกระวานเขียว เสิร์ฟให้ทานแบบเย็นๆ ได้รสชาติและความหอมของกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ
INDUS ร้านอาหารอินเดีย สไตล์อินเดียนต้นตำรับแท้ สวยหรูดูดี อาหารอร่อย แถมด้วยรางวัลมิชลิน มาแล้ว 2 ปี และปีนี้ได้อีกเป็นปีที่ 3 จึงการันตีในเรื่องของความอร่อยและความสะอาด ถูกหลักอนามัยแน่นอน นอกจากนี้ สำหรับช่วงเทศกาลกินเจ ทางร้าน INDUS ยังมีอาหารเจไว้บริการอีกด้วย ซึ่งจะเป็นพวกปิ้งย่าง แกงกระหรี่ และข้าวหมกขนุน ซึ่งอาหารเจจะมีอยู่ใน ALACARTE MENU อยู่แล้วค่ะ
สำหรับบุฟเฟ่ต์จะมี WEEKDAY LUNCH SET : Prices from 450++ to 750++ Baht per person DINNER SET : Prices from 900++ to 1,250++ Baht per person Every Saturday & Sunday from 11:00-15:00 Price 950++ per person 50% discount for kids of 5-12 years and Kids below 5 years eat for free *ทุกเย็นวันพฤหัสบดี มีดนตรีสด(เปอติ๊ด ญาดา เดอะวอยซ์ )เวลา 6โมงเย็นเป็นต้นไป*
* Direct Delivery: 20% Discount on food items
* สำหรับมื้ออาหารสุดพิเศษ สุดสัปดาห์ Sunday Brunch เริ่ม เวลา 11:00 -15:00 น.
* ทางร้านมี Ladies Night ทุกวันพฤหัสที่ Indus มาสนุกกับดนตรีสดกับวงYada Petite Gomez – The Voice พร้อมกับจิบค็อกเทลสูตรพิเศษ รับส่วนลดสูงสุด 50% สำหรับสาวๆ ตั้งเเต่เวลา19.30น เป็นต้นไปอีกด้วยค่ะ
Indus Bangkok Indian Restaurant
สำรองที่นั่งได้ที่โทรศัพท์ 02-258-4900 หรือ 086-339-8582
Website : www.indusbangkok.com , www.cateringbyindus.com
Facebook : www.facebook.com/indusbkk/
LINE : @indus
Instagram : @indusbkk
ปักหมุดพิกัด Map : https://goo.gl/maps/XphEcVK6KWdmK85C8